
ในโลกธุรกิจที่การแข่งขันดุเดือด การโฆษณาเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดึงดูดความสนใจจากลูกค้า แต่บางครั้งแบรนด์อาจเผลอใช้วิธีการ โฆษณาเกินจริง โดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม ผลลัพธ์คือความคาดหวังที่ไม่ตรงกับความเป็นจริง ทำให้ลูกค้าผิดหวังและเสียความเชื่อมั่น
การโฆษณาที่เกินจริงไม่เพียงส่งผลต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์ แต่ยังสร้างปัญหาในระยะยาว เช่น การถูกรีวิวเชิงลบหรือสูญเสียกลุ่มลูกค้าประจำ ยิ่งไปกว่านั้น ในบางกรณีอาจเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีทางกฎหมายเกี่ยวกับการโฆษณา ด้วยเหตุนี้ ธุรกิจควรคำนึงถึงความซื่อสัตย์และโปร่งใสในการสื่อสาร เพื่อสร้างความไว้วางใจและความสัมพันธ์ที่ยั่งยืนกับลูกค้า
การโฆษณาเกินจริงเป็นดาบสองคมที่อาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างรุนแรงในระยะยาว
ความน่าเชื่อถือลดลง เมื่อสินค้าหรือบริการไม่เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ ลูกค้ามักจะไม่กลับมาซื้อซ้ำ และรีวิวเชิงลบอาจกระจายไปอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์
เสียโอกาสในการเติบโต แบรนด์ที่เคยถูกมองว่าไม่น่าเชื่อถือจะพบว่าการขยายตลาดเป็นเรื่องยาก ลูกค้าใหม่อาจไม่กล้าเสี่ยงลองใช้สินค้าหรือบริการ
ผลกระทบทางกฎหมาย ในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย มีกฎหมายที่ควบคุมการโฆษณาเกินจริง เช่น พ.ร.บ.ว่าด้วยการโฆษณาที่เป็นเท็จหรือหลอกลวง ผู้ประกอบการอาจถูกปรับหรือดำเนินคดีได้
ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร โฆษณาที่อวดอ้างสรรพคุณเกินจริง เช่น “ลดน้ำหนักได้ 10 กิโลใน 7 วัน” เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการโฆษณาที่ไม่สมจริง
ผลิตภัณฑ์ความงาม บางแบรนด์อาจโฆษณาว่า “ใช้แล้วขาวใสใน 1 สัปดาห์” แต่ความจริงแล้วไม่มีผลิตภัณฑ์ใดที่สามารถเปลี่ยนสีผิวได้ในระยะเวลาอันสั้น
สินค้าไอที โฆษณาที่ระบุว่าสินค้ารองรับทุกฟีเจอร์ เช่น “โทรศัพท์รุ่นนี้สามารถใช้งานแอปพลิเคชันได้ทุกประเภท” อาจทำให้ลูกค้าคาดหวังเกินจริง
บริการสถาบันการเงิน เช่น การโฆษณาสินเชื่อที่ระบุว่า “อนุมัติไว 100%” แต่กลับมีเงื่อนไขซับซ้อนที่ลูกค้าไม่ทราบ
ระบุข้อเท็จจริงที่พิสูจน์ได้ การให้ข้อมูลที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาจะช่วยสร้างความไว้วางใจ เช่น แทนที่จะโฆษณาว่า “ลดน้ำหนักทันใจ” ควรเปลี่ยนเป็น “ลดน้ำหนักได้เฉลี่ย 2 กิโลกรัมใน 1 เดือน (ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล)”
ใช้คำที่กระตุ้นความสนใจ แต่ไม่หลอกลวง เลือกใช้คำที่ดึงดูด เช่น “โปรโมชั่นพิเศษ” หรือ “ลดสูงสุดถึง 50%” แทนการใช้คำที่ดูโอเวอร์เกินจริง
แสดงรีวิวจากผู้ใช้จริง รีวิวจากลูกค้าจริงจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าและบริการ เช่น “ลูกค้ากว่า 90% พึงพอใจกับผลลัพธ์”
SMS Marketing เป็นหนึ่งในช่องทางการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพสูงในการโฆษณาแบบตรงจุด โดยเฉพาะสำหรับการแจ้งเตือนโปรโมชั่นหรือข่าวสารสำคัญ
กระชับและได้ใจความ ข้อความที่ส่งผ่าน SMS ควรสั้น กระชับ และชัดเจน เช่น “ลดพิเศษ 20% สำหรับสมาชิก VIP วันนี้เท่านั้น [ลิงก์]”
ส่งตรงถึงกลุ่มเป้าหมาย คุณสามารถเลือกส่งข้อความไปยังกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น ลูกค้าเก่า หรือลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าประเภทเดียวกัน
ใช้ข้อความเพื่อกระตุ้นการตัดสินใจ ตัวอย่างเช่น “เหลือเวลาอีก 2 ชั่วโมง! ช้อปเลยตอนนี้เพื่อรับส่วนลดพิเศษ”
อัตราการเปิดอ่านสูง SMS มีอัตราการเปิดอ่านมากกว่า 90% ซึ่งหมายความว่าข้อความของคุณจะถึงมือลูกค้าเกือบทุกคน
เข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ว่าลูกค้าจะอยู่ที่ไหน พวกเขาก็สามารถรับข้อความได้ทันที
เหมาะสำหรับการโปรโมตระยะสั้น การแจ้งเตือนโปรโมชั่นด่วน เช่น ลดราคาวันเดียว หรือกิจกรรมพิเศษ จะได้ผลดีผ่าน SMS
สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า การส่งข้อความอวยพรวันเกิดหรือแจ้งข่าวสารส่วนบุคคลช่วยสร้างความใกล้ชิดระหว่างแบรนด์กับลูกค้า
โฆษณาเกินจริง อาจช่วยดึงดูดความสนใจในระยะสั้น แต่ผลเสียที่ตามมาอาจทำลายความน่าเชื่อถือของธุรกิจ การใช้ SMS Marketing เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ช่วยให้คุณโปรโมตสินค้าและบริการได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสี่ยงกับปัญหาโฆษณาที่เกินจริง
GODYSMS พร้อมช่วยคุณส่งข้อความที่ชัดเจนและตรงใจลูกค้า เพื่อสร้างความประทับใจและเพิ่มยอดขายในเวลาเดียวกัน แน่นอนว่าพวกเราไม่สนับสนุนให้คุณส่ง โฆษณาเกินจริง เพราะส่งผลเสียทั้งกับตัวลูกค้าและความเชื่อใจต่อแบรนด์ของคุณเอง
อัพเดทข่าวสารและบทความต่างๆ เกี่ยวกับ "GODYSMS"
เพื่อให้ท่านรับรู้ทุกความเคลื่อนไหวของเรา
การทำธุรกิจในยุคดิจิทัลไม่ใช่แค่การมีสินค้าและบริการดีเท่านั้น แต่ต้องสามารถ “สื...
อ่านเพิ่มเติมโลกของการตลาดเปลี่ยนเร็วมากกว่าที่เราคิด ในปี 2025 การตลาดดิจิทัล ไม่ใช่เรื่องให...
อ่านเพิ่มเติมในยุคดิจิทัลที่การสื่อสารต้องรวดเร็วและแม่นยำ การแจ้งเตือนข้อความ หรือที่เรียกว่...
อ่านเพิ่มเติม